การนวดกดจุดสะท้อนเท้า (Foot Reflexology)
ศาสตร์การนวดกดจุดสะท้อนเท้าเป็นศาสตร์ที่ถือกำเนิดมาจากชาวอียิปต์และชาวจีนโบราณกว่า 5,000 ปีมาแล้ว และได้แพร่หลายไปยังหลายๆ ประเทศในเวลาต่อมา จนมาถึงประเทศไทยซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สืบนื่องมาจากประชาชนชาวไทยเริ่มให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพตนเองเพิ่มมากขึ้นและหันมาพึ่งวิธีการรักษาแบบแผนโบราณ อันได้แก่ การรักษาโดยใช้ยาสมุนไพร การฝังเข็ม ประคบสมุนไพร นวดไทย นวดกดจุดสะท้อนเท้า และวิธีอื่นๆ อีกมากมาย แทนการรับประทานยาปฏิชีวนะ ซึ่งการรักษาดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาตนเองที่เป็นที่ยอมรับกันมากในหมู่ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดเท้านั้นมีผู้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเล็งเห็นได้ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการนวดเท้า และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การนวดเท้าเป็นวิธีการทางธรรมชาติโดยมิได้ใช้อุปกรณ์ใดๆ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย ประหยัดและปลอดภัย เป็นที่ประจักษ์กันมานานหลายปีแล้วว่าการนวดให้ผลการรักษาได้ ปัจจุบันการนวดกดจุดสะท้อนเท้าจึงจัดอยู่ใน “แพทย์ทางเลือก
การดูแลรักษาสุขภาพเท้าเบื้องต้น
1. ไม่ควรให้เท้าเย็น ถ้าเท้าเย็น แสดงว่าสุขภาพเท้าบกพร่อง
2. อย่าให้เท้ามีรอยด้านมีตาปลา มีรอยแตก
3. อย่าใส่รองเท้ารัดแน่นจนเกินไป
4. อย่าใส่รองเท้าสูงนานเกินไป
5. เวลาอาบน้ำให้อาบเท้าก่อน
“เท้า” เป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญของร่างกายที่ช่วยรับรองน้ำหนักตัวทั้งหมดของร่างกายมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นยังซ่อนแถบบำบัด “ZONE THERAPY” ที่ช่วยให้มนุษย์ทุกคนสามารถบำบัดมนุษย์ โดยอาศัยแถบบำบัดหรือจุดบำบัดนี้ การกดจุดสะท้อนเท้าในลักษณะนี้จะต้องอาศัยกระบวนการที่เรียกว่า กระบวนการสะท้อนกลับของร่างกาย “REFLEXOLOGY”
กระบวนการสะท้อนกลับของเท้า “FOOT REFLEXOLOGY” เป็นกระบวนการที่สัมพันธ์ภายในร่างกายของมนุษย์ กล่าวคือ เท้ามนุษย์เรามีตำแหน่งการตอบสนองต่างๆ ซึ่งสัมพันธ์กับทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นการนวดกดจุดตำแหน่งต่างๆ ที่เท้าจึงสามารถวินิจฉัยได้ว่าส่วนใดของร่างกายเกิดความไม่สมดุลขึ้น ทำให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
การนวดกดจุดเท้าจึงเป็นการแก้ไขภาวะที่ไม่สมดุลเหล่านี้ เพื่อทำให้ร่างกายกลับคืนสู่ภาวะปกติและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างน่าอัศจรรย์
การนวดกดจุดสะท้อนเท้ามีประโยชน์ในการรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้ออย่างลึกๆ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและสนับสนุนการทำงานของต่อมน้ำเหลืองภายในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย ปรับสมดุลของร่างกายให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ ช่วยบำบัดและบรรเทาการเจ็บป่วยของร่างกาย ปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ ขับของเสียออกจากร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรค ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย ปรับการทำงานของประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย ป้องกันโรคอัมพฤต-อัมพาต ปรับฮอร์โมนของร่างกายให้เป็นปกติ เสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อให้เป็นปกติ และที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยฟื้นฟูและผลักดันให้มีสุขภาพร่างกายที่แข้งแรงขึ้น
ศาสตร์ของการนวดโดยทั่วไป แบ่งได้ 2 ประเภท คือ การนวดเพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและผ่อนคลายสภาวะจิตใจ (RELEX) เพียงอย่างเดียว จะใช้ไม้เป็นอุปกรณ์ในการนวดร่วมกับการใช้มืออีกประเภทหนึ่ง คือ การนวดกดจุดสะท้อนที่เท้า เพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้ปกติหรือเป็นการปรับสมดุลภายในร่างกายโดยอาศัยจุดหรือตำแหน่งการสะท้อนนั้นสามารถวินิจฉัยการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ เพื่อการป้องกันและแก้ไขในเวลาต่อมา วิธีนี้จะใช้มือในการนวดเพียงอย่างเดียว
ศาสตร์การนวดกดจุดสะท้อนเท้า จะใช้นิ้วหรือข้อนิ้วมือกดลงบนจุดสะท้อนที่เท้าซึ่งเรียกว่าปลายประสาท จุดสะท้อนที่เท้ามีทั้งหมด 62 จุด แต่ละจุดเป็นปลายประสาทที่เชื่อมโยงไปยังอวัยวะที่สำคัญในร่างกายทั้ง 62 อย่าง และมีความรู้สึกรับรู้ทั้งหมด 62 แบบ หากทำการกระตุ้นที่จุดสะท้อนใด ย่อมสะท้อนไปยังอวัยวะที่สัมพันธ์กับจุดสะท้อนนั้นๆ โดยตรงต่ออวัยวะหนึ่งเป็นผลให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ระบบต่อเนื่องและการปรับสมดุล ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูและผลักดันให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น กระบวนการดังกล่าวบรรลุผลโดยผ่านระบบเลือดหมุนเวียนเป็นสำคัญ
จากการนวดเท้ามากกว่า 10,000 คน พบโรคอยู่ 2 กลุ่ม คือ 1.โรคที่เป็นโรค ได้แก่ โรคติดเชื้อต่างๆ, โรคมะเร็ง, โรคฟิลิส,โรควัณโรค ฯลฯ 2.โรคที่ไม่มีโรค ได้แก่ เนื้องอก, ปวดศีรษะ, อัมพาต ฯลฯ ต้องทราบว่าเป็นโรคอะไร และแก้ไขให้ถูกต้อง
ศาสตร์ที่ 1 ธรรมชาติบำบัด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มที่ 1 อาหาร เช่น สมุนไพร
- กลุ่มที่ 2 เช่น พลังสวดมนต์, พลังใจ, พลังแสง ฯลฯ
- กลุ่มที่ 3 โครงสร้างหรือกายภาพ เช่น ศาสตร์ลำตัวโดยรวม ทางจีนได้แก่ ฝังเข็ม, ทางไทย เช่น เชลยศักดิ์ , นวดราชสำนัก, ทางญี่ปุ่น เช่น ชิซึ, ทางฝรั่ง เช่น อโรมาเธอราปี
ศาสตร์ที่ 2 คือ ฝ่ามือ เมืองจีนมีร้านนวดฝ่ามือ เมืองไทยยังไม่มีใครเก่งจริง, ฝ่ามือมีจุดอยู่จุดหนึ่งระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง จุดนี้ทางจีนเรียกว่า เหอกู๋ จุดนี้จะแก้ง่วงได้ อนาคตจะมีร้านนวดฝ่ามือแก้โรคต่างๆ ได้
ศาสตร์ที่ 3 ใบหู มีจุดสะท้อนไม่แพ้ฝ่ามือ เวลาใช้หูควรใช้ทั้ง 2ข้าง
ศาสตร์ที่ 4 กระดูกสันหลัง คอ หลัง เอว ก้นกบ ศาสตร์นี้เป็นของจีน ต่างชาตินำไปพัฒนา เรียกว่า ไคโรแพรกติก (จัดกระดูก) ใช้เวลาทำ 5-7 นาที
ศาสตร์ที่ 5 เท้า ฝ่าเท้าซ้ายบ่งบอกอวัยวะซีกซ้ายคือหัวใจ ม้าม ,ไต, กรวยไต,กระเพาะ,ปัสสาวะ, ลำไส้เล็ก, หัวแม่เท้า บ่งบอกถึงศีรษะ มีสมองเล็ก สมองใหญ่ ส่วนฝ่าเท้าขวา บ่งบอกถึง อวัยวะขวา คือ ถุงน้ำดี, ตับ, ไส้ติ่ง ที่แตกต่างกัน นอกนั้นจะเหมือนกันทั้งซ้ายและขวา การนวดเท้าซ้ายกับการนวดเท้าขวาจำนวนต้องเท่ากัน
เท้าเป็นจุดรวมของสุขภาพ ถ้าตั้งเท้าทั้ง 2 ข้าง จะเหมือนคนยืน เท้าของมนุษย์เรามีตำแหน่งการตอบสนองต่างๆ ซึ่งสัมพันธ์กันทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้น การนวดกดจุดตำแหน่งต่างๆที่เท้าซึ่งสามารถวินิจฉัยได้ว่าส่วนใดของร่างกายเกิดความไม่สมดุลขึ้น เราสามารถมองดูหน้าคนแล้วบอกลักษณะนิ้วหัวแม่เท้าได้
การเดินเท้าเปล่าไม่ใส่รองเท้าเหมือนคนสมัยก่อน สุขภาพแข็งแรงดีกว่าใส่รองเท้าทั้งวัน แต่ห้ามเดินในกระเบื้อง, หินขัด, พื้นเย็นๆ เหยียบกะลามะพร้าว, ไม้ไผ่ผ่าซีก จะดีกว่าเดินเท้าเปล่า เพราะกะลามะพร้าวนูนขึ้นมา ตำแหน่งฝ่าเท้าเป็นตำแหน่งของลำไส้กระเพาะ ทำให้เรอลมได้ดีต้องเป็นกะลามะพร้าวที่สด ถ้าไม่สด จะปวดลำไส้ตลอดชีวิต เหยียบก้อนกรวดขนาดใหญ่กว่า เหยียบกะลามะพร้าว, ไม้ไผ่ เพราะก้อนกรวดเล็กกว่า จุดเท้ามี 62 จุด จะเหยียบได้ทั่ว ลงเท้าปุ่มหรือไม้กลิ้งนวดที่ทำขายทั่วไปดีกว่าก้อนกรวด แต่ห้ามเหยียบเกิน 1 ช.ม. ถ้านวดเองแบบมั่วๆ โดยไม่รู้หลักดีกว่าลงเท้าปุ่ม เพราะนวดได้ทั้งด้านนอกด้านในของเท้า นวดฝ่าเท้าที่ใช้ไม้นวดจากผู้รู้ดีกว่านวดเองมั่วๆ เพราะผู้รู้จะรู้หลักการนวด
การนวดกดจุดสะท้อนเท้ามีการนวด 7 ระบบที่ได้ผลดี คือ
1. ระบบการขับถ่าย อุจจาระ และปัสสาวะ
2. ระบบสมอง เครียด ความดันสูง นอนไม่หลับ จำดี
3. ระบบฮอร์โมน เช่น วัยทอง ปวดประจำเดือน
4. ระบบการฟัง การดม เช่น มีปัญหาตา หู จมูก สายตาสั้น นวดจะได้ผล
5. ระบบประสาทไขสันหลัง เช่น เมื่อย-ปวดหลัง อัมพฤต อัมพาต
6. ระบบต่อมน้ำเหลือง เช่น ยุงกัดหายช้า
7. ระบบภูมิต้านทาน ถ้าภูมิต้านทานต่ำ นวดกดจุดสะท้อน ภูมิต้านทานจะสูง
นวดได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุ ห้ามนวดตอนอิ่มจัด หรือหิวจัดหรือมีปัญหาขั้นโคม่า หรือกระดูกเท้าแตก มีหนอง มีความดันสูงมาก หญิงมีครรภ์ นวดได้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ต้องเว้น 6 ชั่วโมง นวดแล้วเท้าจะอุ่น อย่าเพิ่งโดนน้ำให้เลือดไหลเวียน เท้ารวมกันจะมีรูปเหมือนคน นิ้วโป้งเป็นแบบไหน ศีรษะจะเป็นแบบนั้น
ถ้าใส่รองเท้าผ้าใบทั้งวันหรือรองเท้าคัชชูจะบีบนิ้วโป้ง ซึ่งนิ้วโป้งคือตำแหน่งจมูก จะบีบจมูกสะท้อนเกิดการหายใจไม่ดี ถ้าใส่รองเท้ารัดแน่นบีบนิ้วก้อยไหล่จะห่อ เพราะตำแหน่งนิ้วก้อยคือตำแหน่งไหล่ ถ้าใส่รองเท้าส้นสูงจะกดถูกตำแหน่งทุกนิ้วคือตำแหน่งศีรษะหน้าผาก ใต้โคนนิ้วคือตำแหน่งกล้ามเนื้อไหล่ และโดนตำแหน่งสะโพก, รังไข่, มดลูก, คอ ดังนั้น คนใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำจะมึนศีรษะคอแข็ง กล้ามเนื้อไหล่เป็นพังพืด เอ็นร้อยหวาย ตึง เมื่อยไหล่ มีปัญหารอบเดือน
ถ้าเดินไม่ระวัง นิ้วโป้งเท้าเตะถูกของจะปวดศีรษะทันที เพราะโดนตำแหน่งหน้าผาก แสดงว่าเท้าสะท้อนอวัยวะ ถ้าไหล่ชน จะเจ็บไหล่ ตำแหน่งหลังที่เท้าจะเจ็บทันที โดยเท้าไม่โดนอะไรเลย แสดงว่า อวัยวะสะท้อนไปเท้า นวดเท้าหลังหายปวด
ดังนั้น ศาสตร์การนวดกดจุดสะท้อนเท้า ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้และนำไปใช้กับตนเองและครอบครัวที่บ้านได้ แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลดีที่สุดควรจะพบกับนักปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเป็นผู้ชำนาญการใช้วิธีการนี้ได้อย่างถูกต้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก
กองการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
สมบูรณ์ รุ่งโรจน์สกุลพร
The Arokaya
เป็น สิว ทำยังไงดี
นอนกรน…มีวิธีรักษา
ภัยเงียบจาก “ยาตีกัน”ผู้ใช้ยาอาจถึงตายได้
มะเร็งต่อมลูกหมาก
โรคอ้วนและดัชนีมวลกาย