Articles

Anti-aging เรื่องจริงหรือแค่แฟชั่น

Fact or Fashion?

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า Anti-aging คือเรื่องของการชะลอวัยทำให้ดูสาวดูสวยดูหนุ่มขึ้น เลยกลายเป็นแฟชั่นสุดฮิต และในปัจจุบันก็มีเครื่องมือและอุปกรณ์ใหม่ๆที่อ้างว่าสามารถทำ quick fix หรือได้ผลทันตาซึ่งดูภายนอกจะเห็นตามนั้นจริงแต่ภายในน่ะ fix แล้วหรือยัง การชะลอวัยไม่ได้มาจากภายนอกอย่างเดียว ระบบภายในร่างกายก็สำคัญด้วย ความจริงในศาสตร์การแพทย์แล้ว Anti-aging เป็นเรื่องของ life-style modification คือการปรับเปลี่ยนชีวิตมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีทั้งภายนอกและภายใน

ชะลอวัยไม่ใช่เรื่องยาก

ที่ผ่านมาการพัฒนาด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) ในวงการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นมาก รายงานด้านการแพทย์ต่างยืนยันและรับรองถึงแนวทางและโอกาสการชะลอความแก่่่ได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยการตรวจสุขภาพแบบ Anti-aging Test ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปไม่ต้องรอให้เข้าวัยทองเพราะยิ่งตรวจเร็วก็ยิ่งชะลอความแก่ได้เร็ว

Anti-aging Test มี 3 วิธีหลักๆคือการตรวจหา free radicals หรืออนุมูลอิสระในร่างกายว่ามีมากน้อยแค่ไหนยิ่งมีมากยิ่งไม่ดี เพราะฉะนั้นควรต้องแก้ไขอย่างไร ต่อมาคือการตรวจหาเซลล์ที่อักเสบหรือ inflammation ซึ่งหากไม่ได้รับการป้องกันดูแลแก้ไขเซลล์นั้นก็จะเสื่อมไปในที่สุดซึ่งจะทำให้แก่ก่อนวัย หรือวัยกลางคนอาจดูว่าเซลล์เสื่อมไปมากน้อยแค่ไหนจะต้องแก้ไขอย่างไรถึงจะกลับมาสมดุลดังเดิม และการตรวจทางพันธุกรรมหรือ genetics ว่ามีส่วนด้อยส่วนดีอย่างไร เพื่อดูแนวโน้มความเส่ียงการเกิดโรคหัวใจ […]

อันตรายที่แฝงมากับข้าวโพดต้ม

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่าข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด

เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป สู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชราต่างๆ อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวกพฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่างอื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าให้ดีที่สุดควรซื้อข้าวต้มดิบมาแล้วมาต้มเอง เพราะพ่อค้า แม่ค้าส่วนใหญ่จะต้มข้าวโพดในกะลามังสังกะสีหรือหม้ออลูมิเนียมบางๆและตั้งบนไฟร้อนๆตลอดเวลา นั่นหมายถึงจะมีสารโลหะ สารตะกั่วออกมาปนในน้ำที่เค้าต้มทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทุกๆครั้งที่คุณเดินตามตลาดหรือตลาดนัด กรุณาสังเกตุด้วยนะคะว่าเค้าใช้ภาชนะใดต้มข้าวโพด และยิ่งไปกว่านั้นร้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยล้างข้าวโพดก่อน คือปอกเปลือกแล้วต้มเลยหรือไม่ก็ต้มพร้อมเปลือกซึ่งจะมียาฆ่าแมลงตกค้างและถูกต้มพร้อมๆกันไปกับข้าวโพดด้วย ถ้าไม่อยากเป็นโรคร้ายแรงก่อนไวอันควร ควรซื้อข้าวโพดมาต้มเองจะปลอดภัยที่สุดค่ะ

ยาประดงพระสังข์ทรงช้าง แก้โรคผิวหนังที่เป็นเม็ดผื่นคัน แก้น้ำเหลืองเสีย

ยาบุรุษ 2000 […]

ออยล์พูลลิ่ง (Oil Pulling) คืออะไร ทำไมได้ยินบ่อยจัง

ออยล์พูลลิ่ง เป็นวิธีบำบัดของอินเดียที่มีมาเป็นเวลาช้านาน เป็นศาสตร์อายุรเวชโบราณที่รู้จักกันในชื่อ Kavala Graham นิยมปฏิบัติกันในสายแพทย์ทางเลือกและธรรมชาติบำบัด ออยล์พูลลิ่งเป็นที่ฮือฮาเมื่อ Dr. F. Karach, M.D., ได้เสนอรายงานต่อที่ประชุมสัมมนาบัณฑิตย์ทางด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศรัสเซียเมื่อปี 2534-2535

Oil pulling ได้รับการยอมรับว่าสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกโดยเฉพาะแบคทีเรีย ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคภัย การอมน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ (10 ml.) ไว้ในปากและเคลื่อนน้ำมันไปให้ทั่วช่องปาก ทั้งดูด ดึง และดันประมาณ 15-20นาที และบ้วนทิ้งไป จะลดจำนวนแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัวที่อยู่ในปากเรา

อันที่จริงออยล์พูลลิ่งไม่ได้รักษาโรค แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคให้น้อยลงหรือหมดไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นฟู

Oil pulling ออยล์พูลลิ่งเป็นกระบวนการทางชีววิทยาล้วนๆ เนื่องจากแบคทีเรียในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรคส่วนใหญ่เป็นสัตว์เซลล์เดียวที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำมันหรือเนื้อเยื่อที่เป็นไขมัน (ซึ่งเซลล์ของคนเราก็ล้อมรอบด้วยส่วนผสมของไขมันเช่นเดียวกัน) เมื่อคุณเทน้ำมันลงในน้ำ น้ำกับน้ำมันจะแยกกันไม่ยอมผสมรวมกัน แต่ถ้าคุณเทน้ำมันกับน้ำมันเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้ำมันทั้งสองจะผสมรวมและดึงดูดซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นน้ำมันที่คุณเอาเข้าปากเพื่อทำออยล์พูลลิ่งจึงสามารถดูดแบคทีเรียในปากของคุณได้ และนี่คือความลับของออยล์พูลลิ่ง

ส่วนน้ำมันที่ใช้ในการทำ Oil pulling นั้น […]

ดื่มน้ำเยอะแต่ดื่มไม่ถูกเวลา นำมาซึ่งโรคภัย

คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงมีปัญหาสุขภาพมากมาย พอโรคนี้หาย โรคนั้นก็ถามหา หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายคุณรวนและนำไปสู่อาการเจ็บไข้ได้ป่วยคือ ระบบย่อยทำงานบกพร่อง เนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่ถูกวิธี เรามีเคล็ดลับการดื่มน้ำง่ายๆที่คุณสามารถนำไปปฏิบัติได้มาฝากค่ะ

1. ดื่มน้ำให้พอเพียงกับน้ำหนักตัว โดยมีวิธีการคำนวณ ดังนี้ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หาร 2 คูณ 2.2 คูณ 30 = ปริมาณน้ำเป็นซีซี (cc.) นำผลลัพธ์หารด้วย 200 เพราะน้ำหนึ่งแก้วเทียบเท่าปริมาณ 200 ซีซี

ทีนี้คุณก็พอทราบแล้วใช่ไหมคะว่าควรดื่มนำ้กี่แก้วในหนึ่งวัน

2. ตื่นเช้า (ก่อนแปรงฟัน) ควรดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง 1-2 แก้ว เพื่อเป็นการชำระของเสียในร่างกาย

3. หลังจากนั้นให้ใช้การจิบบ่อยตลอดทั้งวัน ไม่ใช่รอให้กระหายก่อนแล้วจึงตะบี้ตะบันดื่ม ถ้าดื่มรวดเดียวหมด 1-2 แก้ว คุณจะหายกระหายน้ำ ณ เวลานั้นแต่ร่างกายคุณจะอยู่ในสภาวะขาดน้ำ เพราะน้ำที่ร่างกายได้รับในปริมาณมากๆในคราวเดียวจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่ต้องถูกขับทิ้งออกมาในรูปของปัสสาวะ ผลก็คือไตจะทำงานหนัก คุณจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตในอนาคต

4. หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม กาแฟ […]

โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงลายจะได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่จากผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกและแพร่ไปสู่ผู้ป่วยคนอื่นๆ ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่ ส่วนมากจะเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี โรคนี้จะระบาดทุกปีในช่วงฤดูฝน หรือช่วงเดือนพฤษภาคมถึง เดือนกันยายน ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น เชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue virus) มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ (Serotype) คือ DEN1, DEN2, DEN3, DEN4 การติดเชื้อสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งในครั้งแรก เรียกว่า การติดเชื้อปฐมภูมิ (Primary infection) อาจไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง อีกทั้งมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์ที่เป็น คือประมาณ 6-12 เดือน ส่วนการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ที่เหลือในครั้งต่อไป เรียกว่าการติดเชื้อทุติยภูมิ (Secondary infection) มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนสูง

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากยุงลาย Aedes Aegypti ตัวเมีย บินไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกโดยเฉพาะ ช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสแดงกี Dengue Virus จะเพิ่มจำนวนในตัวยุงประมาณ 8-10 วัน เชื้อไวรัสแดงกี่จะไปที่ผนังกระเพาะและ […]