Articles

ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาคุมกำเนิด (Contraceptive Pill)

ยาเม็ดคุมกำเนิด….เป็นยาที่มีอัตราการใช้มากที่สุดในโลก

 

ถ้ามีใครสักคนถามว่า “ยาอะไรที่มีมนุษย์ใช้มากที่สุดในโลก” ก็จะได้คำตอบว่า “ยาเม็ดคุมกำเนิด” ทั้งนี้เพราะกว่าครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด และจะต้องใช้ติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 เม็ด นาน 3 สัปดาห์ เว้น 1 สัปดาห์ แล้วเริ่มแผงใหม่ วนเวียนแบบนี้ตลอดระยะวัยเจริญพันธุ์จนถึงวัยทอง

ถ้าประมาณว่ามีการใช้ยาเป็นระยะเวลานาน 20 ปี แล้วจะต้องใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดถึงกว่า 5,500 เม็ด จะเห็นได้ว่ายาเม็ดคุมกำเนิดมีความสำคัญอย่างมากกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว

ดังนั้น จึงต้องรู้ถึงข้อดีและข้อเสีย ทั้งระยะสั้นและระยะยาวของยาเม็ดคุมกำเนิด ที่แต่ละคนได้ใช้อยู่ ก่อนที่จะกล่าวถึงข้อดีและข้อเสียของยาเม็ดคุมกำเนิด ขอตกลงร่วมกันก่อนว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดที่กล่าว ถึงนี้ หมายถึงยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด และแต่ละเม็ดจะประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิดคือโพรเจสเทอโรน และเอสโทรเจน ซึ่งเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดส่วนใหญ่ที่มีการใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จะไม่ได้หมายรวมถึง ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโพรเจนเทอโรนอย่างเดียว หรือยาฉีดคุมกำเนิด

ข้อดีของยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงที่ประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิด มีข้อดี […]

อีโคไล…แบคทีเรียสายพันธ์ุใหม่ที่ควรระวัง

แบคทีเรียชนิดที่มีในร่างกายมนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย แต่สำหรับแบคทีเรียที่มีชื่อว่า อีโคไล หรือ Escherichia ซึ่งพบได้ในลำไล้ของมนุษย์และสัตว์ สามารถทำให้เกิดโรคหรืออาการต่างๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ และอาการท้องร่วง เป็นต้น แบคทีเรียชนิด อีโคไลจะมีชีวิตอยู่ได้ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป โดยเฉพาะในมูลสัตว์

หลักจากพบการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ระบาดในประเทศอังกฤษ วันนี้นำข้อมูลเกี่ยวกับแบคทีเรียชนิดนี้มาให้ได้รู้จักกันเพื่อเป็นการป้องกันและรับมือหากได้รับเชื้อชนิดนี้

 

เชื้ออีโคไล แพร่สู่คนได้อย่างไร

เชื้อแบคทีเรียอีโคไลจะแพร่สู่คนได้จากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มี เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ ซึ่งเชื้อชนิดนี้มักจะปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่ได้รับการปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ

 

การระบาดของเชื้ออีโคไล

การแพร่ระบาดของเชื้อ อีโคไลเริ่มขึ้นในประเทศอังกฤษและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 20 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่รับประทานอาหารขณะร่วมพิธีในโบสถ์แห่งหนึ่งในปี 2539-2540

 

อาการของผู้ได้รับเชื้ออีโคไล

จะพบอาการแต่เริ่ม ท้องร่วงเล็กน้อย จนกระทั่งเกิดภาวะลำไส้อักเสบและมีอาการเลือดออกไม่หยุด เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและพบเลือดปนกับอุจจาระ

 

ระยะฟักตัวของเชื้ออีโคไล

ระยะฟักตัวของเชื้อ อยู่ที่ประมาณ 3-8 วัน และจะปรากฏอาการในช่วง 3-4 วันหลังการได้รับเชื้อ แม้ว่าผู้ได้รับเชื้อจะสามารถนำเชื้อชนิดนี้ออกจากร่างกายได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่เชื้อส่วนที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อยยังสามารถทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่นเกิดภาวะไตเสื่อม ซึ่งเกิดจากเซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย

 

[…]

มะเร็งต่อมลูกหมาก

Prostate Cancer

มะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนใหญ่ไม่มีอาการแสดง และอาจตรวจพบโดยบังเอิญขณะไปตรวจเช็กสุขภาพกับแพทย์ บางรายอาจมีอาการถ่ายปัสสาวะลำบากแบบเดียวกับอาการของต่อมลูกหมากโต

มะเร็งชนิดนี้มักลุกลามช้า และสามารถมีชีวิตเป็นปกติสุขและยืนยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ไม่มีอาการแสดง

ปัจจุบันยังไม่แนะนำให้ผู้ที่ไม่มีอาการแสดงไปตรวจคัดกรองมะเร็งชนิดนี้ด้วยการตรวจหาระดับสารพีเอสเอในเลือด เพราะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าได้ประโยชน์เท่าที่ควร

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน (androgen) ได้แก่ เทสโทสเทอโรน (testosterone) ร่วมกับปัจจัยทางกรรมพันธุ์ (พบว่าผู้ที่มีพ่อหรือพี่น้องเป็นโรคนี้ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้มากกว่าคนทั่วไป) อาหาร (มะเร็งชนิดนี้พบมากในคนอ้วน ผู้ที่กินเนื้อแดงหรือไขมันมาก กินผักผลไม้น้อย) การทำหมัน (พบว่าผู้ชายที่ทำหมันเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน) และการมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในเลือดสูง (เช่น การใช้ฮอร์โมนชนิดนี้เป็นเวลานานๆ)

อาการ

มะเร็งชนิดนี้มักมีการลุกลามช้า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง อาจตรวจพบโดยบังเอิญขณะไปตรวจเช็กสุขภาพ

ในรายที่มะเร็งลุกลามเป็นก้อนโตจนเกิดภาวะอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ ก็จะมีอาการแบบเดียวกับต่อมลูกหมากโต กล่าวคือจะเกิดอาการถ่ายปัสสาวะลำบาก ต้องออกแรงเบ่งหรือรอนานกว่าจะถ่ายปัสสาวะออกมาได้ ทำให้ใช้เวลาในการถ่ายปัสสาวะนาน ปัสสาวะไม่พุ่ง ลำปัสสาวะเบี้ยวหรือเล็กลง มีความรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด และปัสสาวะบ่อย หลังเข้านอนตอนกลางคืนต้องลุกขึ้นปัสสาวะบ่อย บางรายอาจถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีเลือดออกปนมากับน้ำอสุจิ ในรายที่มะเร็งแพร่กระจาย ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ถ้ามะเร็งแพร่ไปกระดูกสันหลัง ซี่โครง หรือเชิงกราน จะมีอาการปวดหลัง ซี่โครง […]

Detox…มาล้างพิษกันเถอะ

คุณเคยบ้างไหม…รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นระยะเวลายาวนานจนรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไม ตัวฉันถึงไร้พลังกายพลังใจขนาดนี้ แล้วยังไม่สามารถรวบรวมสมาธิทำงานได้นาน ๆ ซึมเศร้าขาดชีวิตชีวา มีปัญหาผิวหนัง ปวดหัว หรือเป็นไข้บ่อย ๆ

ชวนกันไปล้างพิษ (Detoxification)

อาจเป็นไปได้ว่า ร่างกายของคุณกำลังทุกข์ระทมเพราะสะสมพิษไว้ในตัวมากเกินไปแล้ว ใครไม่มีพิษสะสมไว้คงไม่ใช่คนร่วมสมัย เพราะทุกวันนี้การใช้ชีวิตของเรา

อากาศที่เราหายใจ หรืออาหารที่เรากินเข้าไป ล้วนแล้วแต่เป็นตัวการสำคัญในการสะสมทั้งนั้น ซึ่งเราจะต่อต้านมันได้ด้วยการขจัดพิษเพื่อให้ร่างกายสะอาด สดชื่น มีพลังเพิ่มขึ้นและช่วยให้ระบบอิมมูนซิสเต็ม ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองร่างกายเราได้เต็มประสิทธิภาพ

ถ้าระบบการดูแลและขจัดพิษ และของเสียออกจากร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ของเสียที่ยังตกค้าจะไหลเวียนกลับไปในกระแสเลือด ทั่วร่างกาย แล้วก่อตัวอยู่บริเวณอวัยวะที่อ่อนแอที่สุด

เราจะสังเกตอาการต่าง ๆว่ามีพิษไปสะสมอยู่แถวไหนบ้าง ถ้าเป็นบริเวณลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็ก มักจะท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย บ่อย ๆ ซึ่งเป็นเพราะเรากินอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่ถูกส่วน มีความเครียด ใช้ยาพวกแอนตี้ไบโอติกบ่อย จิบน้ำสีอำพันเป็นประจำ หรือดื่มน้ำน้อยไป อาหารที่จะช่วยได้ คือผักใบเขียวที่มีคลอโรฟีลล์มาก ๆ หรือนมเปรี้ยวที่มีแล็กโตบาซิลลัส

ถ้ามีปัญหาผิวหนังต่าง ๆ เป็นผื่นแพ้บ่อย ๆ ลิ้นขม ปวดศีรษะ […]

วิธีดูแลสุขภาพฟันและช่องปาก

ง่ายๆนิดเดียวค่ะ..โดยการดูแลแปรงสีฟันของเราให้สะอาด เพราะในช่องปากของคนเรานั้นมักจะสะสมแบคทีเรียไว้มากที่สุด เวลาแปรงฟันแบคทีเรียเหล่านั้นก็จะถูกสะสมอยู่ในแปรงสีฟันจนกลายเป็นเชื้อโรค ฉะนั้นหากว่าใคร ไม่อยากให้แปรงสีฟันของตัวเองเป็นตัวก่อโรคก็มาดูวิธีดูแลแปรงสีฟันกันเลยดีกว่าค่ะ

มาดูรายละเอียดกันค่ะว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

6 วิธีดูแลแปรงสีฟัน

1. เปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน

2. อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น

3. ลองขอคำแนะนำในการใช้แปรงและแปรงฟันให้ถูกวิธีจากทันตแพทย์

4. อย่าใช้แปรงที่มีขนแปรงแข็งเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแผลที่เหงือกและทำให้แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย

5. ถ้าเก็บแปรงสีฟันไว้ในห้องน้ำ ควรเก็บในปลอกให้เรียบร้อยไม่ควรวางทิ้งไว้ หรือเสียบใส่ในแก้วน้ำเฉยๆ

6. ใช้น้ำร้อนทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคให้แปรงสีฟันบ้างและน้ำร้อนยังทำให้ขนแปรงที่แข็งอ่อนนุ่มลงด้วย